เล็บปลอม หลายคนอาจเจอปัญหาว่าเมื่อทาเล็บแล้วสีเล็บเหลือง ทำให้เลือกที่จะไม่ทาแม้ว่าอยากจะมีเล็บสวย ๆ ก็ตาม และเล็บกลายเป็นเสมือนเครื่องประดับที่ติดตัวของสาวๆ ดังนั้นในวงการแฟชั่นเองก็ได้มีการผลิตตัวช่วยที่จะทำให้สาว ๆ สามารถมีเล็บที่สีสันสวยงามตามสมัย ทั้งยังปรับเปลี่ยนได้บ่อยตามความต้องการ เล็บปลอมสวยๆ ซึ่งในภาษาอังกฤษรู้จักกันในชื่อ Artificial Nails, Acrylic Nails, Fake Nails, False Nails, Fashion Nails, Nail Extensions หรือ Nail Enhancements จึงเป็นไอเท็มที่น่าสนใจสำหรับสาว ๆ ที่อยากตกแต่งเล็บค่ะ
ประเภทของเล็บปลอม
เล็บปลอม PVC
ทำจากพลาสติกมีลักษณะโค้งเข้ากับเล็บจริง บริเวณโคนเล็บและปลายเล็บบาง กลางเล็บหนา อายุการใช้งานสั้น (5-7 วัน) ขึ้นอยู่กับความถี่ในการโดนน้ำ หากมือต้องโดนน้ำบ่อย ๆ ก็จะเสื่อมเร็วขึ้น มีวิธีการต่อเล็บ 2 แบบคือการต่อเล็บแบบ PVC และแบบสำเร็จ ซึ่งทั้งสองวิธีสามารถทำเองได้ และใช้เวลาไม่นาน ต่างกันคือเล็บปลอม PVC จะวาดลวดลายเองทีหลัง แต่แบบสำเร็จตัวเล็บปลอมจะมีลวดลายมาให้อยู่แล้ว ข้อดีของการใช้เล็บปลอมแบบนี้คือ ใช้เวลาไม่นาน ราคาไม่สูง เหมาะสมกับผู้ที่ไม่ค่อยมีเวลาทำเล็บ แต่ข้อเสียคือ ถ้าเล็บปลอมไม่แนบสนิทกับเล็บจริงก็มีโอกาสหลุดง่าย ขนาดของเล็บปลอมส่วนใหญ่ก็มักไม่พอดีกับเล็บจริง จำเป็นจะต้องตะไบให้เข้ารูป อาจเกิดปัญหาเล็บปลอมหนาเกินไป ทั้งยังมีโอกาสเป็นเชื้อราได้มากกว่าการต่อเล็บประเภทอื่น นอกจากนี้หากกาวไม่ได้มาตรฐาน หรือนำเล็บปลอมออกผิดวิธีก็อาจจะทำลายผิวเล็บจริงได้
เล็บปลอมอะคริลิค
เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมค่อนข้างมาก แต่ต้องต่อโดยช่างผู้เชี่ยวชาญ เนื่องจากต้องมีอุปกรณ์ที่ออกแบบเฉพาะติดลงบนหน้าเล็บเพื่อเพิ่มการยึดเกาะ ทำฐานกำหนดความยาวของเล็บ จากนั้นลงอะคริลิคบนเล็บตามรูปร่างและความยาวที่ต้องการ จากนั้นจึงเคลือบ UV Top Gel ตกแต่ง และเพนท์เล็บ ข้อดีของเล็บปลอมแบบนี้คือ เล็บที่ได้จะเป็นธรรมชาติ รูปทรงและขนาดเข้ากับเล็บเดิมและเป็นตามต้องการ อายุการใช้งานนานกว่าเล็บปลอม PVC (ได้ประมาณ 2 สัปดาห์) เมื่อเล็บยาวสามารถเติมโคนได้ เติมสีสันได้โดยอิสระไม่ว่าจะเป็นการฝังลาย ต่อปลาย หรือปั๊มนูน แต่ข้อเสียคือราคาสูง ใช้เวลาทำนาน กลิ่นฉุน หากช่างไม่ชำนาญอาจเกิดเชื้อราได้แม้ว่าจะมีการฆ่าเชื้อหน้าเล็บเพื่อป้องกันก่อนแล้วก็ตาม และหากใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐานหรือถอดเล็บปลอมผิดวิธีก็อาจทำลายหน้าเล็บได้
เล็บปลอมเจล
เล็บปลอมประเภทนี้ได้รับความนิยมมากที่สุด โดยเป็นวิธีที่พัฒนามาจากเล็บอะคริลิค ใช้แสง UV ทำให้เจลแข็งตัว เล็บปลอมเจลจะเงางามและเบากว่าอะคริลิค ถอดเล็บง่ายกว่าแต่ไม่แข็งแรงเท่าอะคริลิค ข้อดีคือสวยงาม มีความยืดหยุ่นเหมือนเล็บจริง ไม่มีกลิ่นฉุนเวลาต่อเล็บ แต่ข้อเสียคือความคงทนไม่มากเท่าอะคริลิค ต่อความยาวได้น้อยกว่า ราคาสูงกว่าการต่อเล็บแบบอื่น ถ้าเตรียมหน้าเล็บไม่ดีมีโอกาสหลุดร่อนสูง จำเป็นจะต้องทำโดยช่างผู้เชี่ยวชาญและใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน
เล็บปลอมไฟเบอร์กลาส (เล็บปลอมเรซิน)
เป็นเล็บปลอมยาวที่เป็นธรรมชาติมากที่สุด น้ำหนักเบาที่สุด เสมือนจริงที่สุด แต่ยังมีความแข็งแรง และเป็นเล็บปลอมที่มีราคาแพงมากทีสุด ในการต่อเล็บจะใช้เส้นใยแก้วชนิดหนึ่งมาตัดเป็นรุปทรงเล็บที่ต้องการแล้วนำมาขึ้นรูปด้วยเรซินติดลงบนเล็บจริง มีข้อดีคือความสวยงามเป็นธรรมชาติและน้ำหนักเบา ไม่มีสารเคมีที่ก่อให้เกิดการแพ้ ไม่มีกลิ่นฉุน ถอดง่ายกว่าเล็บปลอมแบบอื่น แทบจะไม่ทำลายหน้าเล็บจริง แต่ข้อเสียคือมีขั้นตอนที่ซับซ้อน ต้องใช้ความประณีตมาก และต้องทำโดยช่างผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น อายุการใช้งานค่อนข้างสั้นและไม่สามารถเติมโคนเล็บได้
เล็บปลอมที่ได้รับความนิยม
เล็บปลอมในท้องตลาดมีหลากหลายแบรนด์ให้เลือกสรร ทั้งจากฝั่งอเมริกา เกาหลี และญี่ปุ่น ซึ่งเล็บปลอมที่ได้รับความนิยมในไทยอย่างสูงคือเล็บปลอมเกาหลี โดยเฉพาะเล็บปลอม diva หรือแบรนด์ dashing diva และเล็บปลอม daiso จากญี่ปุ่น
เล็บปลอม Dashing Diva
เป็นเล็บปลอมแบบที่มีกาวซิลิโคนในตัว ติดแน่นไม่ต้องระวังมาก และติดง่ายเหมาะกับมือใหม่หัดทำเล็บ มีให้เลือกหลายลายและหลายขนาด ตะไบที่มากับชุดเล็บปลอมก็ใช้ง่ายไม่ฝืด สามารถใช้ชุดติดเล็บปลอมได้สะดวกและรวดเร็ว ความยาวของเล็บปลอมค่อนข้างพอดีเล็บและดูเป็นธรรมชาติ แต่ราคาค่อนข้างสูงเทียบเท่ากับการทำเล็บเจลในร้าน และไม่เหมาะกับคนที่เล็บเล็ก สั้น หรือกว้างเกินไป
เล็บปลอม Daiso
เป็นเล็บปลอมที่มีราคาถูก (60 บาทต่อ 1 ชุด) มีให้เลือก 2 แบบคือ แบบขุ่น (สีขาวขุ่น) และแบบใส หากอยากได้ลวดหลายหรือสีสันสวยงามจะต้องตกแต่งเอง นอกจากนี้เล็บปลอมจะค่อนข้างหนา หากอยากให้บางเป็นธรรมชาติจะต้องขัดเอง ซึ่งใช้เวลาค่อนข้างนาน นอกจากนี้ตัวเล็บปลอมก็ไม่ได้มีกาวในตัว จะต้องซื้อแยก แต่โดยรวมแล้วราคาจะถูกกว่า Dashing Diva มาก
เล็บปลอม GLAZE & GLAM
แบรนด์เล็บปลอมของสาวไทยที่ไม่ใช่เล็บปลอมธรรมดาๆ แต่เป็น เล็บปลอมสำเร็จรูปพร้อมเทปกาวในตัว ความพิเศษของเล็บสำเร็จรูปยี่ห้อนี้คือ มีเทปกาวในตัว และมีอุปกรณ์มาให้พร้อมในกล่อง ทำให้พร้อมใช้ทุกที อุปกรณ์ในกล่องมีให้มาอีก ก็มีแผ่นเช็ดเล็บ ตะไบเล็บ และไม้ถอดเล็บ
เล็บปลอม Tips and Toes
แบรนด์นี้มีให้เลือกหลายลาย และราคาน่ารักเข้าถึงได้ง่าย แบบเรียบๆแค่100บาทเท่านั้น มีทั้งแบบออกงาน แบอลังเพชรเม็ดเป้ง หรือเน้นเรียบๆ สีสุภาพ หรือเพ้นท์ลายน่ารักก็มี และไซส์เล็บของแบรนด์นี้ยังเยอะมากอีกด้วย สวย เร็ว ทนน้ำ และไม่ทำให้เล็บเสีย
เลือกเล็บปลอมยังไงให้เหมาะกับนิ้วของเรา
- เลือกเล็บปลอมที่ผลิตจากพลาสติก PVC ที่มีคุณภาพ เพราะมีลักษณะคล้ายเล็บมากที่สุด โดยเล็บปลอม 1 ชุดนั้นจะมีมาให้ทั้งหมด 10 ขนาด เพื่อให้เข้ากับเล็บมากที่สุด
- เลือกเล็บปลอมที่ไม่หนามาก เพราะเวลาติดจะสูงกว่าหนังบริเวณโคนเล็บ ถ้าเล็บปลอมหนาไปเมื่อติดจะทำให้ดูไม่เนียน
- ปัจจุบันเล็บปลอมนั้นมีหลายทรงให้เลือก ทั้งสั้น ยาว ปลายแหลม ปลายตัด สามารถเลือกทรงของเล็บปลอมได้ตามความต้องการ
- หากใครชอบเล็บปลอมที่เพ้นท์หรือทำสีแล้วตาม Instagram ควรวัดความกว้างให้แม่นยำกับขนาดของเล็บเรา แล้วระบุความยาวตามที่ต้องการ เพื่อให้พ่อค้า แม่ค้าได้ทำเล็บปลอมให้เราได้ตรงขนาดมากที่สุด
ไม่มีเล็บปลอมไหนที่มีขนาดเท่าเล็บเราทุกขนาด หากในชุดเล็บปลอมนั้นไม่มีขนาดเล็บปลอมที่เท่ากับเล็บเราเลย แนะนำให้เลือกเล็บปลอมขนาดที่ใหญ่กว่าเล็บเราหนึ่งเบอร์ แล้วนำเล็บปลอมนั้นมาตะไบให้ได้ขนาดที่เท่ากับเล็บของเรา อย่างเช่น หากเล็บนิ้วนางแล้ว เล็บปลอมเบอร์ 8 นั้นใหญ่เกินไป แต่เบอร์ 9 ก็เล็กไปอีก ดังนั้นให้เรานำเล็บเบอร์ 8 มาตะไบให้ได้ขนาดนั้นเอง
วิธีการติดและถอดเล็บปลอม
วิธีการติดเล็บปลอม
1.เตรียมเล็บให้พร้อม
- ลบสีเล็บเดิมหรือดึงเล็บปลอมชุดเก่าออกก่อน ต่อให้มันจะเป็นเล็บปลอมสีใสก็ตาม การปล่อยสีเดิมทิ้งไว้อาจจะทำให้เล็บปลอมที่เราจะติดนั้นติดไม่อยู่ ทำให้หลุดเร็วกว่าที่ควร และล้างมือหลังจากสัมผัสอะซิโตนหรือน้ำยาล้างเล็บ
- แช่เล็บในน้ำ จะทำให้เล็บของมีสุขภาพดีและทำให้เล็บปลอมติดทนนานขึ้น โดยแช่เล็บในน้ำอุ่นประมาณ 5 นาทีจนเล็บดูดีและนิ่ม ใช้ผ้าเช็ดมือและเล็บให้แห้ง อาจจะเติมสบู่เหลวหรือสบู่ล้างมือลงในน้ำก็ได้ แต่อย่าแช่เล็บในน้ำยาที่มีน้ำมัน เพราะจะทำให้มีคราบน้ำมันอยู่บนเล็บก่อนจะทำให้เล็บปลอมติดได้ยาก
- ตัดแต่งเล็บ ใช้กรรไกรตัดเล็บเล็มให้เล็บเท่ากัน และอย่าสั้นเกินไป ต้องเหลือปลายเล็บเพื่อให้เล็บปลอมติดได้ และตะไบปลายเล็บอย่างที่ต้องการ
- ดันหนังเล็บ หนังเล็บจะนิ่มจากการแช่น้ำ จะต้องใช้ไม้หรืออุปกรณ์ทำเล็บดันหนังเล็บเคลียร์ให้พื้นที่เล็บกว่างขึ้น เพื่อให้เล็บปลอมไม่ติดหนังเล็บ และอย่าตัดหนังเล็บ เพราะหนังเล็บจะช่วยป้องกันเนื้อเล็บจากการติดเชื้อและการเล็มหนังเล็บจะทำให้ฝุ่นหรือสิ่งสกปรกสะสมได้
- ขัดหน้าเล็บ ใช้ที่ขัดเล็บขัดหน้าเล็บ ทำให้หน้าเล็บหยาบขึ้นและง่ายต่อการติดเล็บปลอม เมื่อทำเสร็จก็เช็ดฝุ่นออก
2.ติดเล็บปลอม
- แต้มกาวบนเล็บจริงเล็กน้อยและบนเล็บปลอมด้านที่คุณจะติดกับเล็บ และอย่าใช้กาวมากเกินไป เพราะกาวจะล้นออกมาด้านข้าง ควรใช้ประมาณ 2-3 หยดก็พอ ถ้ากาวล้นออกมาด้านข้าง ก็ใช้คัตตอนบัตเช็ดออก
- ค่อยๆ วางเล็บปลอมบนเล็บจริง วางให้เส้นโค้งด้านพอดีกับหนังเล็บ ติดไล่จากโคนเล็บไปยังปลายเล็บ ไม่ควรติดลงไปเลยเพราะอาจจะทำให้เล็บเบี้ยวได้
- กดทิ้งไว้ซักประมาณ 10 วินาที เพื่อให้กาวเซ็ตตัวจะได้ยึดติดได้ดี และปล่อยเมื่อมั่นใจแล้วว่าไม่มีช่องว่างระหว่างเล็บปลอมกับเล็บจริง
- ตะไบเล็บ ใช้ตะไบเล็บธรรมดาตะไบให้เป็นรูปร่างตามใจชอบได้เลย แต่ถ้าชอบเล็บปลอมแบบที่เป็นอยู่แล้ว ก็ไม่ต้องตะไบก็ได้
*แนะนำให้เพ้นท์หรือทำสีบนเล็บปลอมก่อนนำมาติดบนเล็บ เพราะจะทำหรือจัดการได้ง่ายกว่าเพ้นท์หรือทำสีหลังจากติดเล็บปลอม
วิธีการถอดเล็บปลอม
มีอยู่สองวิธีด้วยกันคือ วิธีถอดเล็บปลอมโดยใช้น้ำอุ่น และ วิธีถอดเล็บปลอมด้วยสำลีชุบอะซิโตน
วิธีถอดเล็บปลอมโดยใช้น้ำอุ่น
- เติมน้ำอุ่นใส่ชาม กะละมัง หรืออ่างล้างมือ แล้วอาจผสมสบู่ล้างมือสูตรถนอมผิวลงไปเล็กน้อย น้ำผสมสบู่จะซึมเข้าไปในกาวติดเล็บ ทำให้กาวนิ่มลง และถอดเล็บปลอมได้ง่าย จากนั้นจุ่มนิ้วลงไปในนั้นจนท่วมเล็บปลอมที่ติดกาวไว้ แช่มือไว้ประมาณ 15-30 นาที
- เมื่อกาวเล็บปลอมเริ่มนิ่มแล้ว สังเกตว่ามุมไหนของเล็บที่เริ่มอ้าแล้ว ก็ค่อยๆแงะเล็บออกมาจากตรงที่เริ่มอ้า ถ้าเล็บยังแน่นอยู่ก็ค่อยๆ ใช้ปลายแหลมของตะไบแซะขอบเล็บปลอมให้เผยอขึ้นมา ถ้าเล็บยังแน่นอยู่ ให้กลับไปแช่เล็บในน้ำสบู่สัก 2-3 นาที กาวจะได้นิ่มกว่าเดิม
- พอถอดเล็บปลอมแล้ว จะเห็นว่าเล็บจริงจะแห้ง ให้ใช้ด้านขัดของฟองน้ำขัดหน้าเล็บ ขัดกาวที่ยังหลงเหลือออกไป ถ้าขัดจนไม่เหลือคราบกาวแล้ว ก็ล้างเศษผงด้วยน้ำสะอาดได้เลย
- ใช้สำลีก้อนชุบอะซิโตนให้ชุ่ม แล้วเอาไปเช็ดแต่ละเล็บ เพื่อขจัดคราบกาวที่ยังหลงเหลือ เสร็จแล้วล้างมือด้วยน้ำและสบู่จนสะอาด ไม่ให้เหลืออะซิโตนและเศษกาวตกค้างตามมือและเล็บ
วิธีถอดเล็บปลอมด้วยสำลีชุบอะซิโตน
- ตัดเล็บปลอมจนสั้นที่สุดเท่าที่ทำได้ เพราะเล็บอะคริลิคเป็นวัสดุที่ใช้ติดกับหน้าเล็บจริงโดยตรง ไม่ได้มีกาวคั่น จึงต้องใช้กรรไกรตัดเล็บ และระวังอย่ากินเข้าไปในเล็บจริง ขั้นตอนการถอดเล็บที่เหลือจะง่ายขึ้นอีกเยอะ
- ถ้าเล็บอะคริลิคยังติดแน่นอยู่กับเล็บจริง ให้ตะไบผิวหน้าของเล็บปลอมออกไป โดยตะไบจนเล็บปลอมหายวาว กลายเป็นหน้าเล็บด้านๆ และพยายามตะไบให้หน้าเล็บเสมอกันทั้งเล็บ เท่านี้ก็จะถอดเล็บปลอมได้ง่าย ถ้าเห็นว่าเล็บจริงโผล่จากการตะไบให้เลิกตะไบ ถ้าทำต่อเดี๋ยวหน้าเล็บจริงจะเสียหาย
- ใช้ผ้าสะอาดทั่วไป เช็ดฝุ่นออกจากเล็บ เพราะถ้าเช็ดฝุ่นออกจากเล็บ เมื่อใช้อะซิโตนแล้วจะได้ซึมเข้าอะคริลิคที่เหลือได้ง่ายขึ้น
- เพื่อช่วยปกป้องผิวจากอะซิโตน ให้ทาปิโตรเลียมเจลลี่บางๆ ที่ฐานเล็บและผิวด้านล่างและรอบเล็บ และถ้าเป็นคนผิวแห้งหรือผิวแพ้ง่าย สามารถทาปิโตรเลียมเจลลี่หนากว่าขึ้นก็ได้
- เอาสำลีก้อนมาชุบอะซิโตน เสร็จแล้วเอาแต่ละก้อนหรือแผ่นไปหุ้มเล็บแต่ละนิ้วไว้ ไอระเหยของอะซิโตนเป็นอันตรายได้ เพราะงั้นให้ทำในที่ที่อากาศถ่ายเทสะดวก
- ฉีกฟอยล์อะลูมิเนียมสีเงินมาประมาณ 1 นิ้ว เช็คว่าพันสำลีแผ่นแน่นหนาดีแล้ว ค่อยหุ้มด้วยฟอยล์ทับสำลีอีกที ฟอยล์อะลูมิเนียมจะช่วยกักเก็บความร้อนชื้นไว้ อะซิโตนจะได้ไม่ระเหยก่อนที่กาวจะนิ่ม
- ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที จากนั้น ครบตามเวลาแล้วให้แกะฟอยล์และสำลีหุ้มเล็บออก จะเห็นว่ากาวละลาย และเล็บปลอมหลวม แต่ถ้าเล็บปลอมยังติดแน่น แนะนำให้ห่อฟอยล์กับสำลีต่ออีกประมาณ 15 นาที
- ใช้ผ้าเช็ดมือสะอาดๆ เช็ดเศษกาวที่ละลายจากเล็บปลอม เช็ดแบบกดๆนิดหน่อย
- ใช้ตะไบเล็บขูดกาวหรือสีที่ยังติดอยู่ เน้นแค่เฉพาะจุดที่ยังเหลือคราบกาว แต่อย่ากดแรง เพราะจะขีดข่วนหน้าเล็บจริงๆได้
ไอเดียเล็บปลอมสวยๆ
เรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับเล็บปลอม
การทำเล็บปลอมเป็นทางเลือกที่สามารถทำให้เล็บสวยได้ง่าย แต่อย่างไรก็ตาม ทางแพทย์ได้ออกมาเตือนแล้วว่าการทำเล็บปลอมที่ไม่ได้มาตรฐาน สุขอนามัยไม่ดีนั้น อาจเป็นการเสี่ยงต่อการติดเชื้อร้ายแรงอย่าง HIV หรืออาจเสี่ยงพิการได้ ดังนั้นเรื่องที่ควรรู้ก่อนทำเล็บปลอมเป็นสิ่งที่จำเป็นจะต้องศึกษาก่อนการทำค่ะ
การรักษาความสะอาด
เป็นสิ่งที่ควรระวังอย่างมาก เนื่องจากเชื้อโรคทั้งหลายมักจะมาพร้อมกับการไม่ระวังเรื่องความสะอาด ในการทำเล็บปลอม สิ่งที่ควรตรวจสอบในเรื่องของความสะอาดนั้นได้แก่
- เล็บจริง จะต้องไม่มีทั้งความมัน ความชื้น หรือสิ่งสกปรกใด ๆ ติดอยู่
- อุปกรณ์ทำเล็บ หากไปร้านทำเล็บ อุปกรณ์ในการตัดและตะไบจะผ่านการใช้งานมาแล้วกับหลายคน หากช่างทำความสะอาดไม่ดีก็อาจะทำให้เราได้รับเชื้อจากคนอื่น ๆ ได้
- เล็บปลอม เป็นสิ่งที่ห้ามใช้ซ้ำ จำเป็นจะต้องเป็นของใหม่แกะกล่องทุกครั้ง
- สีเล็บเดิม ต้องกำจัดก่อนทุกครั้งที่ต่อเล็บใหม่ หากล้างไม่สะอาดจะส่งผลต่อความคงทนของเล็บปลอมและอาจะทำให้ติดเขื้อง่ายกว่าเดิม
- การตัดหนังกำพร้ารอบเล็บ ควรพยายามหลีกเลี่ยง หนังกำพร้าเป็นสิ่งที่อาจส่งผลทำให้การติดเล็บปลอมไม่เนียนสนิท แต่เป็นสิ่งป้องกันเชื้อโรคตามธรรมชาติของร่างกาย
คุณภาพวัสดุและช่างทำเล็บ
เป็นอีกสิ่งที่ควรระวังในการทำเล็บปลอม เนื่องจากหากวัสดุไม่ได้มาตรฐาน หรือช่างที่ทำเล็บไม่เชี่ยวชาญมากพอ อาจก่อให้เกิดปัญหาในภายหลังหลายเรื่องได้ เช่น ความปลอดภัยจากเชื้อโรค หรือกาวติดเล็บที่ไม่ได้มาตรฐานอาจทำลายหน้าเล็บจริง
การถอดเล็บปลอม
ควรถอดโดยช่างมืออาชีพ เนื่องจากกาวที่ใช้ติดเล็บปลอมมีความหนาแน่นมากกว่ากาวที่ใช้ทั่วไป หากดึงเล็บปลอมออกเองจะเสี่ยงกับการทำให้เล็บเดิมพังและการบาดเจ็บได้
การใช้เล็บปลอมตกแต่งเล็บนับว่าเป็นอีกวิธีหนึ่งที่สามารถทำให้เล็บมีความสายงามตามแฟชั่นได้ แต่อย่างไรก็ตามก่อนการติดเล็บปลอม สาว ๆ ควรศึกษาข้อมูลและข้อควรระวังไว้ด้วยนะคะ เพราะถ้าหากผิดพลาดไปสาว ๆ อาจจะต้องเสียเงินค่ารักษาตัวยิ่งกว่าค่าทำเล็บหลายเท่าก็เป็นได้