เชื่อว่าเครื่องประดับอีกชิ้นหนึ่ง ที่สาวๆ หลายท่านจะต้องรู้จักกันเป็นดีแน่นอน นั่นก็คือ เครื่องประดับประเภททองนั่นเอง เมื่อขึ้นชื่อว่า ทองแล้ว แน่นอนเลยว่าเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าค่อนข้างสูง เนื่องจากว่า ทองมีลักษณะงดงามมันวาว ซึ่งสามารถเปลี่ยนเฉดสีทองโดยการนำทองคำไปผสมกับโลหะมีค่าอื่นๆ ช่วยเพิ่มความงดงามให้แก่ทองคำได้อีกทางหนึ่ง อีกทั้งยังมีความคงทน โดยทองคำจะไม่ขึ้นสนิม ไม่หมองลง และไม่ผุกร่อน ไม่ว่าคุณจะเก็บหรือสะสมไว้นานแค่ไหนก็ตาม อีกทั้งยังเป็นแร่ที่หายาก กว่าจะได้ทองมาสักออนซ์ จะต้องทำการขุดเหมืองลึกลงไปหลายสิบเมตร ทำให้ต้นทุนการผลิตนั้นจะมีทุนสูง จึงทำให้ทองมีราคาค่อนข้างแพง และยังสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ เนื่องจากทองสามารถหลอมละลายและนำมาขึ้นรูปแบบใหม่ได้ง่าย จึงทำให้มนุษย์นิยมนำทองมาทำเป็นเครื่องประดับต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสร้อย แหวน หรือแม้แต่ต่างหู ซึ่งปัจจุบันมีการทำ ต่างหูทอง ออกมาหลายรูปแบบมาก
ซึ่งหลายท่านอาจจะมีคำถามว่า ทอง นั้นสามารถนำมาทำเป็นเครื่องประดับได้เต็ม 100 % ได้ไหม เพราะอย่างที่เคยได้ยิน ทอง 14K 18K 24K คืออะไร ที่จริงแล้วคำว่า K ย่อมาจากคำว่า Karat (กะรัต) เป็นหน่วยวัดส่วนผสมของทองในส่วนต่อ 1,000 หรือ 100% ทอง K คือทองแท้ที่มีการผสมโลหะชนิดอื่นในเปอร์เซ็นต์ที่สูงกว่า ( ใช้ทองแท้ผสมต่ำกว่า 96.5 % ) ทั้งนี้ก็เพื่อให้เกิดความแข็งแรง คงทนพอที่จะไม่ทำให้เครื่องประดับนั้นๆบิดหรือเบี้ยวได้ ถึงแม้จะเป็นทองแท้เมื่อการเวลาผ่านไปก็อาจจะมีการบิดเบี้ยวได้ตามสภาพการใช้งาน เหมือนที่กล่าวไปข้างต้นว่าทองนั้นสามารถหลอมละลายเพื่อขึ้นรูปใหม่ได้
สำหรับบ้านเราจะคุ้นเคยกับการคิดถึงความบริสุทธิ์ของทองเป็นเปอร์เซ็นต์มากกว่า ตัวอย่างเช่น
8K, 8ct หรือ 33.3% มักจะได้รับความนิยมบ้างในกลุ่มทวีปยุโรป
9K, 9ct หรือ 37.5% นิยมในอังกฤษและออสเตรเลีย
10K, 10ct หรือ 41.6% นิยมในประเทศสหรัฐอเมริกา
12K, 12ct หรือ 50% มักจะทำเป็นนาฬิกามากกว่าเครื่องประดับ
14K 14ct หรือ 58.5% นิยมเป็นอย่างมากในตลาดเอเชีย รวมไปถึงประเทศสหรัฐอเมริกา
18K, 18ct หรือ 75% เป็นมาตรฐานทองขั้นต่ำสำหรับขายในอิตาลี
22K, 22ct หรือ 91.6 คนไทยมักนิยมนำมาทำเครื่องประดับ หรือกรอบเลี่ยมพระ
24K, 24ct หรือ 100% ทองบริสุทธิ์
หากใครสงสัยว่าแล้ววิธีการคำนวนทองคำตามที่กล่าวมาข้างบนนั้นคำนวนยังไง วิธีการคำนวณหาว่าทองกี่เปอร์เซ็นต์ เท่ากับกี่เค = จำนวน % คูณ 24 หาร 100 เช่น ทอง18K เท่ากับกี่เปอร์เซ็นต์ ? (18 หาร 24 คูณ 100) = 75 % เป็นต้น
เมื่อรู้จักเครื่องประดับต่างหูทองกันแล้ว เรามาดูกันค่ะว่าต่างหูทองจะมีรูปแบบไหนกันบ้าง?
ต่างหูทอง แบบมีแป้นด้านหลัง

ส่วนใหญ่ลายของต่างหูประเภทนี้นิยมจะผลิตเป็นลายดอกไม้ต่างๆ เช่น ดอกพิกุล ดอกรัก ดอกมะลิซ้อนและดอกแคทลียา เป็นต้น หรือแบบร้านอาจจะมีการทำเป็นต่างหูทองฝังเพชร ส่วนใหญ่จะเป็นการนำเพชรเม็ดเล็กๆมาทำและตัวเรือนของต่างหูและแป้นมักจะเป็นทองทั้งหมด แต่จริงแล้วแป้นของต่างหูก็มีทั้งใช้ทองแท้และยางมาเป็นแป้น
ซึ่งต่างหูลักษณะนี้ จะเหมาะกับการแต่งตัวแทบจะทุกรูปแบบ ด้วยความที่เป็นต่างหูเม็ดเล็กๆที่พออยู่บนใบหน้าของคุณแล้วจะช่วยเสริมให้ใบหน้าของคุณดูมีกิมมิกเพิ่มขึ้นจากเดิม ไม่ว่าวันนั้นจะเป็นวันทำงานที่แสนจะธรรมดาของคุณ วันประชุมสำคัญ หรือวันไปเที่ยวแสนสุขของคุณ ต่างหูทองชนิดนี้ก็สามารถเลือกใส่ได้
ต่างหูทอง แบบห่วง

ต่างหูเเบบห่วงนั้นไม่ว่าจะเป็นเงินหรือทองก็ล้วนเป็นต่างหูที่ทำให้หนุ่มๆหรือสาวๆที่สวมใส่นั้น ดูเก๋ ดูชิค ไม่มีเอ้าท์อย่างแน่นอน ต่างหูทองแบบห่วงนั้นจะมีตั้งแต่แบบต่างหูห่วงเล็กๆที่ความหนาไม่มาก ไปจนถึงห่วงใหญ่ๆที่มีความหนามาก แต่จุดเด่นของต่างหูประเภทนี้ก็คือ หากเป็นต่างหูทองที่มีขนาดความหนามาก ช่างทองมักจะนิยมพิมพ์ลายลงไปบนต่างหูด้วย เพื่อเพิ่มความสวยงามและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
การแต่งตัวที่เข้ากับต่างหูชนิดนี้ หากคุณจะใส่ไปในวันทำงานนั้นอาจจะดูไม่ค่อยเหมาะสมสักเท่าไร เนื่องจากมันจะทำให้ใบหน้าของคุณดูโดดเด่นมากจนเกินไป ส่วนใหญ่มักจะนิยมใส่ในวันที่ไปเที่ยว หรือไปงานเลี้ยงต่างๆที่การแต่งตัวของคุณสามารถแต่งได้อย่างเต็มที่ หากยิ่งคุณใส่คู่กับเสื้อผ้าสีดำแล้วจะยิ่งทำให้การแต่งตัวของคุณดูหรูหรามากขึ้นไปอีก โดยหลายๆท่านที่เลือกใส่ต่างหูแบบห่วง ก็เพราะห่วงเรื่องความปลอดภัยของต่างหูที่ไม่ต้องกังวลว่าจะไปเกี่ยวกับคล้องกับอะไรให้หลุดหายไปนั่นเอง
ต่างหูทอง แบบห้อย

ต่างหูชนิดนี้จะมีลักษณะห้อยระย้าลงมาจากหู จุดเด่นของต่างหูทองแบบห้อยก็คือ ตรงพวงที่ห้อยลงมาจะไม่เยอะมาก ส่วนใหญ่จะเป็นสายสร้อยห้อยลงมาจากติ่งหูเพียงเล็กน้อย แซมด้วยดอกไม้หรือรูปทรงเรขาคณิตต่างๆ.
ซึ่งส่วนใหญ่จะเหมาะกับการแต่งตัวในชุดราตรีสั้นหรือยาว แต่สำหรับบางแบบก็สามารถใส่ไปทำงานหรือใส่ไปเที่ยวได้เช่นกัน เป็นยังไงบ้างคะ? หลังจากที่ได้ทราบที่มาของทองและต่างหูทองแล้ว หลายๆคนคงอยากจะมีไว้ครอบครองบ้าง หรือใครที่มีแล้วมีเพิ่มได้อีก ไม่เสียหายค่ะ 😊
reference
-Beauty Encyclopedia, J. paddington
-How to choose earring, E. Watson